ตรวจสอบสิทธิประกันสังคมทุกมาตรา ได้ที่นี่
กลายเป็นหัวข้อที่ได้รับความสนใจจากประชาชนคนไทยเป็นจำนวนมาก สำหรับมาตราการที่ออกมาช่วยเหลือประชาชนจากทางรัฐบาล สำหรับผู้ประกันตนในมาตราต่างๆ ในส่วนของมาตราการดังกล่าวที่ออกมาช่วยเหลือผู้ประกันตนก็คือการ “แจกเงินเยียวยา” ให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในจังหวัดสีแดงเข้ม และ พื้นที่ที่ถูกควบคุมสูงสุด จากมาตรการประกาศล็อกดาวน์
ทางประกันสังคมได้เปิดให้ประชาชนสามารถลงทะเบียนได้ผ่านช่องทางออนไลน์บนเว็บไซต์ของประกันสังคมที่ https://www.sso.go.th/eform_news/ สำหรับรายละเอียดของผู้ประกันตนในมาตรา 33, มาตรา 39 และ มาตรา 40 สามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ด้านล่าง
ประกาศจากทางสำนักงานประกันสังคม แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการช่วยเหลือลูกจ้าง และ นายจ้างที่เป็นผู้ประกันตน มาตรา 33, มาตรา 39 และ มาตรา 40 ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด 29 จังหวัด กับ 9 ประเภทกิจการ ซึ่งสามารถตรวจสอบรายละเอียด และสิทธิในการเยียวยา ผ่านทางเว็บไซต์ของประกันสังคมได้ทันที
ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้มีมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวห์ ในเขตพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัด ซึ่งได้แก่ จังหวัดกรุงเทพมหานคร, จังหวัดนครปฐม, จังหวัดนนทบุรี, จังหวัดปทุมธานี, จังหวัดปทุมธานี, จังหวัดสมุทรปราการ, จังหวัดสมุทรสาคร, จังหวัดนราธิวาส, จังหวัดปัตตานี, จังหวัดยะลา และ จังหวัดสงขลา และ ในส่วนของจังหวัดที่ถูกเพิ่มเติมขึ้นมา จะเป็นจังหวัดฉะเชิงเทรา, จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ จังหวัดชลบุรี
ประเภทกิจการที่ได้รับการเยียวยา ได้แก่
- กิจการที่พักแรมและบริการด้านอาหาร
- กิจกรรมศิลปะ
- กิจการก่อสร้าง
- บันเทิงและนันทนาการ
- กิจกรรมบริการด้านอื่นๆ
- ขนส่ง และ สถานที่เก็บสินค้า
- ขายส่งและ ขายปลีก
- กิจการซ่อมยานยนต์
- กิจกรรมการบริหารและบริการสนับสนุน
- กิจกรรมวิชาชีพวิทยาศาสตร์
- กิจกรรมทางวิชาการ
- ข้อมูลข่าวสาร และ การสื่อสาร
อัพเดทความคืบหน้าเกี่ยวกับการเยียวยาของกลุ่มนายจ้างในมาตรา 33 รับเงินเยียวยา 3,000 บาท ต่อลูกจ้างไม่เกิน 200 คน ตอนนี้มีนายจ้างได้ทำการขึ้นทะเบียนขอยื่นรับเงินเยียวยาผ่านระบบ e-service ในพื้นที่ 13 จังหวัด จากการตรวจสอบล่าสุด มีนายจ้างประมาณ 180,000 ราย ในระบบ ทางด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ออกคำสั่งให้สำนักงานประกันสังคม รีบดำเนินการประชาสัมพันธ์ กระตุ้นไปยังนายจ้างที่ยังไม่ได้ยื่นขอรับเงินชดเชยเยียวยา สามารถยื่นความประสงค์ขอรับเงินผ่านระบบ E-service ของประกันสังคมได้
ผู้ประกันตน มาตรา 39 และ มาตรา 40 วันนี้สามารถเข้าไปตรวจสอบสิทธิรับเงินเยียวยาของประกันสังคมได้แล้ว ซึ่งเปิดให้ผู้ประกันตน มาตรา 39 และ มาตรา 40 ใน 29 จังหวัดสีแดงเข้ม ใน 9 กลุ่มกิจการ ทำการตรวจสอบสิทธิรับเงินเยียวยา 5,000 บาท สำหรับประชาชนที่มีความต้องการที่จะสมัครมาตรา 40 ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับสิทธิรักษาพยาบาลร่วมกับบัตรทอง รวมถึงสิทธิประโยชน์สวัสดิการแห่งรัฐต่างๆ ยังได้รับสิทธิเหมือนเดิม จากการประชุมของคณะรัฐมนตรี ล่าสุดได้เห็นของวงเงิน 33,471 ล้านบาท เพื่อใช้ในการเยียวยาผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และ มาตรา 40 ในพื้นที่ 29 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด โดยช่วยเหลือค่าครองชีพคนละ 5,000 บาท
ขั้นตอนในการตรวจสอบโครงการเยียวยานายจ้าง และ ผู้ประกันตน
- ให้เข้าไปที่เว็บไซต์ www.sso.go.th และ คลิกเลือก ตรวจสอบสิทธิโครงการเยียวยา ผู้ประกันตน มาตรา 39 ตรวจสอบสิทธิโครงการเยียวยา ผู้ประกันตน มาตรา 40
- หลังจากนั้นให้ทำการกรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก
- ให้กดที่ปุ่มค้นหา
- ระบบจะแสดงผลการค้นหา ว่าได้รับสิทธิ หรือ ไม่ได้รับสิทธิตามเงื่อนไขโครงการ
ยื่นก่อนได้ก่อน รับเงินเยียวยานายจ้าง ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการรัฐบาล
นายจ้างที่อยู่ในพื้นที่ 13 จังหวัดสีแดงเข้ม และ อยู่ใน 9 ประเภทกิจการที่ถูกควบคุมสูงสุด และ เข้มงวด จะได้รับเงินเยียวยา 3,000 บาท ต่อลูกจ้าง 1 คน รับสูงสุดไม่เกิน 200 คน ทางสำนักงานประกันสังคมจะเริ่มทำการโอนเงินเข้าบัญชี ในวันที่ 10 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป นายจ้างจะต้องทำตามขั้นตอนและรายละเอียดด้านล่าง
นายจ้างที่ขึ้นทะเบียน e-service แล้ว (นิติบุคคล/บุคคลธรรมดา)
- เข้าไปที่เว็บไซต์ sso.go.th
- เข้าระบบ e-Service สถานประกอบการ
- คลิกเลือกที่ “ยื่นความประสงค์ ขอรับเงินเยียวยา”
- กรอกเลขบัญชีนายจ้างเลขสาขา
- กรอกข้อมูลนายจ้าง บัญชีธนาคาร
- ปริ้นเอกสาร ส่งสำนักงานประกันสังคม
นายจ้างที่ไม่ได้ลงทะเบียน e-service (จัดส่งเอกสารไปยัง สปส. เขตพื้นที่ จังหวัด/สาขา)
นิติบุคคล
- แบบแสดงความจำนง
- สำเนาบัญชีธนาคาร
- หนังสือมอบอำนาจ กรณีมอบอำนาจลงนามแทน
บุคคลธรรมดา
- แบบแสดงความจำนง
- ผูกบัญชีธนาคารพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชนของนายจ้าง
จากสถานการณ์ในปัจจุบันที่คนไทยอยู่บ้านกันมากขึ้น ทำให้กิจการร้านค้า และ ร้านอาหารต่างๆได้รับผลกระทบอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้างสรรพสินค้าต่างๆที่อยู่ในจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเป็นวงกว้าง มีผู้ติดเชื้อรายวันหลักพันคนบวกกับมาตรการของรัฐบาลที่มีมาตรการคำสั่งให้ปิดสถานที่ดังกล่าว ทำให้นายจ้าง และ ผู้ประกันตน ตามมาตราดังกล่าวไม่สามารถดำเนินกิจการ และ ไม่สามารถทำงานได้ ซึ่งคนกลุ่มนี้ได้รับผลกระทบแบบ 100% จากปัญหาดังกล่าวทำให้เราเห็นการเติมโตของธุรกิจออนไลน์มากขึ้นในช่วงระยะเวลานี้ ยกตัวอย่างเช่นยอดขายของเซ็นทรัล ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สามารถขายสินค้าได้ผ่าน 2 ช่องทาง นั่นก็คือขายของที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ซึ่งมีหลายสาขาทั่วประเทศไทย แต่เนื่องด้วยสถานการณ์ในปัจจุบัน ห้างสรรพสินค้าต้องปิดตัวลง เนื่องจากมาตรการรัฐบาลทำให้ตอนนี้สามารถขายได้ผ่านช่องทางออนไลน์อย่างเดียวทำให้ยอดขายพุ่งบวกกับทางเซ็นทรัลมีการจัดโปรโมชั่น และ คูปองส่วนลด central online ให้กับลูกค้าที่เลือกสั่งซื้อผ่านทางออนไลน์แถมมีบริการจัดส่งฟรีด้วย